สถิติ
เปิดเมื่อ17/05/2013
อัพเดท29/07/2013
ผู้เข้าชม6241
แสดงหน้า6905
เมนู
สินค้า
ปฎิทิน
May 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
    
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31




กาญจนบุรี

อ่าน 636 | ตอบ 0
สถานที่ท่องเที่ยว กาญจนบุรี
ทางเลือกใน กาญจนบุรี, ประเทศไทยจังหวัดกาญจนบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และการผจญภัย เช่น อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ โบราณสถานพงตึกและวัดดงสัก เจดีย์ยุทธหัตถี สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร บ้านหนองขาว บ้านมอญ อำเภอสังขละบุรี อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติถ้ำลำคลองงู ฯลฯ
 

รายละเอียด

        วัดถ้ำเสือ  สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุก็คือความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี และที่ทำให้ต้องตกใจอีกอย่างคือ ความสูงของบันไดก่อนที่จะถึงด้านบนนั้นมีถึง 159 ขั้น ทำให้ทีมงานเหงื่อตกเลยทีเดียว แต่พอดีหันไปเห็นว่ามีรถไฟฟ้าด้วย ก็เลยลงความเห็นได้ทันทีว่า ไปรถไฟฟ้าดีกว่า (ค่าบำรุงไฟฟ้าท่านละ 15 บาท รวมขาไปและกลับแล้ว) เมื่อเดินทางมาถึงด้านบนก็พบกับความสดชื่นของลมที่พัดเย็น และแรงทีเดียว มองไปด้านล่างเห็นเป็นทุ่งนา และผู้คนตัวเล็กนิดเดียว เมื่อช่างภาพประจำทีมเตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูปพร้อมแล้วก็จะพาไปชมสิ่งสำคัญ ๆ กันเลย

พระพุทธรูปปางประทานพร ที่เห็นกันด้านล่างว่าใหญ่แล้ว พอขึ้นมาถึงพบว่าใหญ่มาก ๆ สมกับที่เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีจริง ๆ ตัวองค์พระสวยงามประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ หลังจากถ่ายรูปแล้ว ทีมงานก็พากันไปบูชาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้พระขอพรกัน

พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ หลายชั้น(ไม่ทันนับเพราะว่าเดินวนกันจนมึน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่คาดว่าประมาณ 7-8 ชั้น) แต่ละชั้นจะประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ มากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย   และยังมีวิหารต่าง ๆ ให้เข้าไปสักการะพระพุทธรูปและชื่นชมความงดงามของจิตรกรรมฝาผนังภายใน (อย่าลืมชมให้ทั่ว) เมื่อชมจนทั่วแล้ว ก็นั่งรถไฟฟ้าลงไปข้างล่างเพื่อเข้าถ้ำเสือ     ถ้ำเสือ เป็นถ้ำขนาดเล็กอยู่บริเวณเชิงเขาด้านล่าง ภายในประดิษฐานพระประจำวันเกิด และจำหน่ายวัตถุมงคล สามารถแวะไปไหว้พระประจำวันเกิดได้ก่อนเดินทางต่อไปที่วัดถ้ำเขาน้อย

 

 

 

วัดถ้ำเขาน้อย  ออกจากวัดถ้ำเสือมานิดหน่อยเท่านั้น ก็จะพบกับวัดถ้ำเขาน้อยที่ศิลปะของวัดต่างกันสิ้นเชิง วัดถ้ำ

เขาน้อยเป็นวัดแบบจีนที่อยู่บนเขาเช่นกัน แต่ว่าที่มีไม่มีรถไฟฟ้าให้ขึ้น และถ้าดูจากภายนอกเหมือนด้านบนจะติดกันกับวัดเขาน้อย แต่ต้องขอบอกว่า ใกล้กันจริงแต่เดินข้ามหากันไม่ได้นะ ดังนั้นถ้าจะเที่ยวแต่ละวัดต้องเริ่มจากด้านล่างเท่านั้น  สิ่งที่สะดุดของวัดถ้ำเขาน้อยคง เป็นพระเจดีย์ทรงเก๋งจีนที่ตระหง่านเคียงคู่กับพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ได้อย่างสวยงาม ภายในวัดถ้ำเขาน้อยมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

 

 

พระพุทธรูปจีนแบบ ต่าง ๆ ชั้นล่างสุด พอก้าวเข้าสู่ประตูไว้ไปจะพบกับพระสังกัจจาย และเทพ 18 อรหันต์องค์สีทองตามแบบนิยมของชาวจีน หลังจากนั้นจะต้องเดินไปตามบันไดหินที่ทอดยาวขึ้นไปด้านบน ระหว่างชั้นต่าง ๆ จะมีชั้นพัก แต่ละชั้นพักก็จะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ชาวจีนเคารพนับถือ เช่น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม และมีท้าวจตุรบาลที่คอยคุ้มครองสถานที่ หลังจากเดินตามบันได้ขึ้นเขามาจนสุด (เรียกความเหนื่อยได้พอสมควรทีเดียว) จะพบกับองค์พระเจดีย์คีรีบรมธาตุ

พระเจดีย์คีรีบรมธาตุ เป็นพระเจดีย์ทรงเก๋งจีน ภายในแบ่งเป็นหลายชั้น(ไม่นับนับอีกตามเคย) แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่ทุกชั้น เชื่อมถึงกันด้วยบันไดเวียนที่วนจนเวียนหัว ตัวองค์พระเจดีย์แต่ละชั้นเปิดประตูโล่ง ลมผ่านเข้าออกได้อย่างสบาย ดังนั้นยิ่งสูงยิ่งหนาว ลมยิ่งแรง  รอบ ๆ ชั้นเชื่อมกันสามารถเดินชมทิวทัศน์ได้ทั่ว ประดับฝาผนังของเจดีย์ด้วยภาพเขียนแบบจีน และแผ่นกระเบื้องนูนรูปพระพุทธรูปแบบจีน   พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์คีรีบรมธาตุ แต่กรอบกระจกบางด้านร้าวแตก(ไม่แน่ใจว่าฝีมือคน หรือฝีมือธรรมชาติ) ที่วัดถ้ำเขาน้อยนี้แม้จะอยู่ติดกับวัดถ้ำเสือแต่แตกต่างกันขึ้นระหว่างเส้น ทางการเดินขึ้นชม มีนักท่องเที่ยวเพียงอีก 1-2 กลุ่มเท่านั้น ที่ขึ้นมาชม ทำให้เงียบสงบ พระสงฆ์ที่อยู่ที่วัดนี้ก็จะห่มจีวรแบบพระจีนเช่นกัน แม้การเดินทางจากลำบาก แต่หากชอบความเงียบสงบ และงดงามแบบจีนแล้วล่ะก็อย่าลืมแวะมาไหว้พระ และชมทิวทัศน์ที่วัดถ้ำเขาน้อย และแวะให้อาหารปลาที่สระน้ำด้านล่างด้วยนะคะ คำแนะนำ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวความสูง เพราะว่าจะทำให้ตื่นเต้นมาก และสำหรับผู้ที่มีปัญหสุขภาพ

การเดินขึ้นวัดถ้ำเขาน้อย อาจค่อย ๆ ขึ้น มีที่นั่งพักหรือแวะพักระหว่างทางได้

 

 

 

 






สะพานข้ามแม่น้ำแคว (อังกฤษThe Bridge of the River Kwai) ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขามอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร มีป้ายบอกทางชัดเจน

สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า (เมียนมาร์) และ อินเดีย อีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองสะพานข้ามแม่น้ำแควเดิม (เป็นเหล็กโค้ง)ได้รับความเสียหาย และรัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ (เหล็กรูปเหลี่ยม) ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบัน มีการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

สะพานเหล่านี้มีมากมายในเมืองไทยและลาวพม่าแต่ส่วนใหญ่ทำจากไม้ ในไทยมีที่ทำจากเหล็กไม่ถึง 15 แห่ง
 

ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :